Bangphai Hospital

บริการ CT Scan

โรงพยาบาลบางไผ่เปิดให้บริการ CT SCAN ชนิด 32 สไลด์ สามารถสแกนได้ถึง 32 ภาพ ต่อการหมุน 1 รอบ

CT Scan คืออะไร

เป็นเทคโนโลยีที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวินิจฉัยโรคและความผิดปกติของร่างกายด้วยการฉายรังสีเอกซเรย์ไปยังบริเวณที่ต้องการตรวจบนร่างกาย เพื่อดูอวัยวะภายในและทำการวินิจฉัยโรคหรือใช้ในการติดตามโรคที่เป็นอยู่ต่อไป เครื่อง CT Scan จะให้รายละเอียดของภาพมากกว่าการเอกซเรย์แบบธรรมดาทั่วไป

โรคและอาการที่สามารถบอกได้

– โรคในสมอง เครื่องสามารถช่วยแพทย์ในการวินิจฉัย ภาวะเลือดออกในสมอง เส้นเลือดในสมองทั้งอุดตันและเส้นเลือดแตก การติดเชื้อหรืออักเสบของเนื้อเยื่อ เนื้องอก มะเร็ง กระดูกแตกร้าว เป็นต้น 

 – โรคบริเวณทรวงอก เครื่องสามารถช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยขนาดก้อนในปอด ภาวะติดเชื้อหรืออักเสบของเนื้อเยื่อ เส้นเลือดปอด เส้นเลือดแดงใหญ่ เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจ การทำงานของหัวใจ ลิ้นหัวใจ ความจุของปอด ปริมาณน้ำในปอด เป็นต้น

 – โรคบริเวณช่องท้อง เครื่องสามารถช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยโรคในตับ ดูความผิดปกติของไขมันพอกตับ ลำไส้ตีบตันหรือมีรู ไส้ติ่งอักเสบ ถุงน้ำดี การทำงานของไต นิ่วในไต นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ก้อนในมดลูก การอักเสบติดเชื้อในทุกอวัยวะ ภาวะกระดูกแตกร้าวต่าง ๆ เป็นต้น

 – โรคกระดูกต่าง ๆ เครื่องสามารถช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยโรคกระดูกได้หลากหลาย ทั้งร้าว แตก กดทับ ผิดรูป รวมถึงภาวะ วัณโรคกระดูกหรือมะเร็งกระดูกได้ เป็นต้น

 – โรคหลอดเลือด เครื่องสามารถช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดแดง หลอดเลือดดำ ได้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า โดยสามารถดูได้ว่า หลอดเลือดมีความผิดปกติหรือไม่ มีการอักเสบหรือไม่ เป็นต้น

ขั้นตอนการทำ CT Scan

เพื่อให้ได้ผลที่ชัดเจนขึ้นผู้ป่วยต้องนอนราบลงบนเตียงของเครื่องสแกน เตียงจะเคลื่อนเข้าไปจนส่วนที่ต้องการสแกนอยู่ตรงกับวงแหวน จากนั้นวงแหวนจะทำการฉายรังสีรอบตัวผู้ป่วย ในขณะที่เครื่องจะฉายภาพภายในร่างกายออกมาเรื่อย ๆ บางครั้งแพทย์จะให้กลั้นหายใจบ้าง ให้ปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์ นอกจากนี้ผู้ป่วยสามารถสื่อสารกับแพทย์ได้ตามปกติผ่านทางเครื่องสื่อสารด้วยเสียง โดยการสแกนจะใช้เวลา 10-20 นาที หลังจากนั้นจะใช้เวลาในการวินิจฉัยจากข้อมูลที่ได้โดยอาจใช้เวลาหลายวันไปจนถึงหลายสัปดาห์เพื่อทราบผลผู้ป่วยบางรายอาจต้องใช้สารทึบช่วยในการสแกน

การดูแลตนเองหลังการทำ CT Scan

หลังจากได้รับการสแกนไปแล้วผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่หากผู้ป่วยได้รับยาเพื่อให้ผ่อนคลายก่อนการสแกนไม่ควรขับยานพาหนะด้วยตนเอง นอกจากนี้กรณีที่ผู้ที่ใช้สารทึบช่วยในการสแกนแพทย์จะให้อยู่ดูอาการก่อนอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง และควรดื่มน้ำบ่อย ๆ เพื่อขับสารทึบแสงออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะ

ข้อควรระวังจาก CT Scan

 – การทำ CT Scan ควรอยู่ในดุลพินิจของแพทย์

 – ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ไม่ควรใช้วิธีนี้หากไม่จำเป็น เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อเด็กในครรภ์

 – ไม่ควรทำการสแกนบ่อยเกินไปเนื่องจากอาจส่งผลต่อสุขภาพได้

 – หากผู้ใช้เป็นเด็กควรให้คำแนะนำและการเตรียมตัวเบื้องต้นก่อน

 – ต้องบอกข้อมูลโรคประจำตัว และประวัติการแพ้ยา

 – อาจมีวัตถุแปลกปลอมที่รบกวนการแปลผล เช่น เครื่องประดับ

 – หากมีอาการผิดปกติหลังการสแกนควรเข้าพบแพทย์ทันที เช่น หายใจลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่นคัน ปากบวม เป็นต้น

CT Scan ทำให้เป็นมะเร็ง

หลายคนกลัวการสแกนเนื่องจากเป็นการทำงานที่มีรังสีเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็งจากการสแกนมีเพียง ใน 2,000 หรือ 0.05 % เท่านั้น เนื่องจากการสแกนไม่จำเป็นต้องทำบ่อยและการสแกนมีปริมาณรังสีไม่มากอย่างที่ทุกคนคิด อย่างไรก็ตามโอกาสการเกิดมะเร็งจากรังสีนั้นจะเสี่ยงกับเด็กหรือผู้มีอายุน้อยมากกว่าผู้สูงอายุ ดังนั้นจึงไม่ควรทำ CT Scan หลายครั้ง ควรทำในโอกาสที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น การสแกนด้วยวิธีนี้มีประสิทธิภาพมากกว่าการเอกซเรย์ธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด ตามตารางด้านล่าง

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

วันและเวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
โทร. 02-457-0086 ต่อ 3305 หรือ โทร. 02-101-0421, 02-120-7243